น้ำตาลในเลือดสูง: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือคนที่มีความเสี่ยง การตรวจวัดระดับน้ำตาลถือว่าเป็นเรื่องควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะต่อให้ร่างกายภายนอกของเราจะดูแข็งแรง ไม่มีอาการใด แต่ถ้าปล่อยปละ ละเลยไปนาน ๆ เข้า ก็อาจจะนำไปสู่อาการที่เรียกว่า “ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง” โดยในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกันให้มากขึ้น ว่าทำไมต้องวัดระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป และวิธีการดูแลตนเอง เพื่อวางแผนป้องกันก่อนที่จะสายเกินไป
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คืออะไร
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้เลือดที่ถูกส่งไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ นั้น ทำให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมประสิทธิภาพในการทำงานลงได้ โดยภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมักจะเกิดกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีความผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลินในการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน และพฤติกรรมการทานอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตสูง แล้วขาดการออกกำลังกาย ทำให้อินซูลินเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานไม่หมด และเกิดการสะสมอยู่ในกระแสเลือดจนกลายเป็น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
นอกจากนี้ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน การมีน้ำตาลในเลือดสูงก็ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ จนทำให้อวัยวะเสียหายและเป็นปัญหาร้ายแรงในอนาคตได้ด้วยน
ระดับน้ำตาลในเลือด เท่าไหร่ถึงจะถือว่าสูง
การวัดระดับน้ำตาลในเลือด คือ การตรวจดูค่าน้ำตาลในเลือดของเราด้วยเครื่องวัดน้ำตาล หรือเครื่องตรวจเบาหวาน ว่าอยู่ในระดับที่ “ปกติ” หรือ “ไม่ปกติ” และมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ซึ่งในการวัดระดับน้ำตาลในเลือด ไม่จำเป็นต้องงดอาหารก็ได้ แต่ในกรณีที่งดอาหารมาแล้วเป็นเวลา 8-10 ชั่วโมง ค่าน้ำตาลในเลือดควรจะอยู่ในเกณฑ์ดังนี้
- ภาวะปกติ จะมีระดับน้ำตาลในเลือดระหว่าง 70-100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dl)
- ภาวะความเสี่ยง หรือเบาหวานแฝง จะมีระดับน้ำตาลในเลือดระหว่าง 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dl)
- ภาวะเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dl)
อาการของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง มีอะไรบ้าง
ในช่วงแรก ๆ ของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจะไม่ค่อยแสดงอาการอะไรที่ชัดเจนมากนัก แต่อาการจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลสูงเกิน 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร โดยอาการส่วนใหญ่จะมีดังนี้
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- คอแห้ง กระหายน้ำบ่อย
- น้ำหนักลด อ่อนเพลียง่าย
- สายตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน ภาพเบลอ
- แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- คอแห้ง กระหายน้ำบ่อย
- น้ำหนักลด อ่อนเพลียง่าย
- สายตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน ภาพเบลอ
- แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ดูแลตนเองยังไงดี
สำหรับการดูแลตนเองของผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อย่างแรกเลยก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือเป็นกลุ่มแป้งขัดขาว เปลี่ยนมาทานข้าวกล้อง ธัญพืชไม่ขัดสี และผัก ผลไม้ที่ไม่มีรสชาติหวาน ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้อ เครื่องตรวจเบาหวานไม่ต้องเจาะเลือด ที่ตรวจเบาหวาน หรือเครื่องวัดน้ำตาลในเลือดราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้เราสามารถติดตามระดับน้ำตาลได้ง่าย และสะดวกสบายมากขึ้นด้วย
Biogenetech พันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพของคุณ
Biogenetech เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนวัตกรรมทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกไม่ว่าจะเป็น วัคซีน ผลิตภัณฑ์ชีวบำบัด และเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการดำเนินงานมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรกับสภากาชาดไทย และสถาบันพัฒนาด้าน Biotechnology ชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ CNBC, CDIBP, Guerbet, GC Pharma และอีกมากมาย ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา Biogenetch มุ่งมั่นที่จะช่วยในการยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขในประเทศไทย ปกป้องประชาชนชาวไทยให้ปลอดภัยจากโรคนานาชนิดอย่างยั่งยืน
ติดต่อ Biogenetech ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
ฝ่ายบริการลูกค้า
โทร: (66) 0-2748-9333 ต่อ 401, 402
โทร (ฟรี): 1800-223-666
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์: 1800-291-245
อีเมล: marketing@biogenetech.co.th
เว็บไซต์: www.biogenetech.co.th