ทำไมถึงต้องใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือดคู่กับที่ตรวจแบบไม่เจาะเลือด?

ในปัจจุบัน การใช้ที่ตรวจเบาหวานต่อเนื่อง (Continuous glucose monitoring, CGM) หรือที่เรียกกันว่า ”ที่ตรวจเบาหวานแบบไม่เจาะเลือด” ถือเป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสบายต่อการติดตามระดับน้ำตาลของผู้ป่วยโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและองค์กรระดับโลกอย่างสมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (ADA) สมาคมโรคเบาหวานในยุโรป (EASD) และองค์การอาหารและยาสหรัฐ (U.S. Food and Drug Administration) รวมถึงผู้ผลิตเทคโนโลยีการวัดน้ำตาลระบบ CGM ต่างลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ป่วยที่ใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบไม่เจาะเลือดควรมีเครื่องวัดน้ำตาลแบบเจาะเลือด (Blood Glucose Monitoring, BGM) สำหรับการตรวจวัดระดับน้ำตาลภายในเลือดควบคู่กันด้วย
ในบทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัยว่า ทำไมเราจึงควรใช้เครื่องตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือด (BGM) ควบคู่กับเครื่องตรวจแบบไม่เจาะเลือด (CGM) เครื่องตรวจทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีอย่างไรเมื่อใช้ร่วมกัน และในช่วงเวลาไหนที่ควรเลือกใช้การตรวจแบบเจาะเลือด เพื่อให้การติดตามระดับน้ำตาลในเลือดและการดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ทำไมต้องใช้ที่ตรวจเบาหวานทั้ง CGM และ BGM ร่วมกัน?
- สำหรับตรวจวัดก่อนทานอาหาร: เพื่อปรับปริมาณอินซูลินที่ใช้ตามความเหมาะสม
- เมื่อกังวลว่าค่าจากเครื่องตรวจ CGM จะไม่ตรงกับระดับน้ำตาลจริง: สามารถใช้ที่ตรวจเบาหวาน BGM เพื่อการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างแม่นยำ
- เพื่อตรวจภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ: โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ช่วงก่อนนอน ก่อนขับขี่ยานพาหนะ ช่วงก่อน–ระหว่าง–และหลังการออกกำลังกาย หรือเมื่อมีอาการบ่งบอกว่าน้ำตาลในเลือดต่ำ
เข้าใจความแตกต่างของที่ตรวจเบาหวานทั้ง 2 แบบ
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน การตรวจเช็กระดับน้ำตาลถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำเป็นกิจวัตร การทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่ตรวจเบาหวานและความแตกต่างของที่ตรวจแต่ละประเภทจึงถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการจัดการโรคเบาหวาน
- วิธีการตรวจวัดระดับน้ำตาล:
- เครื่องตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือด (BGM: Blood Glucose Monitoring) จะใช้การเจาะเลือดปลายนิ้วเพื่อตรวจหาระดับกลูโคสในเลือดโดยตรง
- เครื่องตรวจเบาหวานแบบไม่เจาะเลือด เช่น CGM (Continuous Glucose Monitoring) หรือ FGM (Flash Glucose Monitoring) จะตรวจหาระดับกลูโคสในของเหลวระหว่างเซลล์ (Interstitial Fluid) ซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง
- ระยะเวลาในการวัด: ค่าระดับน้ำตาลในเลือดและในของเหลวระหว่างเซลล์ที่มีการตรวจพร้อมๆ กันนั้นอาจไม่เท่ากัน และอาจต้องใช้เวลาถึง 6-18 นาทีกว่าที่ค่าของเครื่องตรวจ CGM จะแสดงระดับน้ำตาลในเลือดจริงๆ ทำให้เกิดการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบัน
- ความแม่นยำ: ความแม่นยำของที่ตรวจเบาหวานแบบไม่เจาะเลือดอาจแตกต่างกันไปตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมประจำวัน ดังนั้นผู้ผลิตเครื่องวัด CGM ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานพกที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือดติดตัวไว้เสมอ เพื่อตรวจเบาหวานด้วยตัวเองอย่างแม่นยำที่สุดในยามจำเป็น
เมื่อไหร่ที่เราต้องใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือด?
- ก่อนทำกิจกรรมสำคัญ: เช่น การขับรถหรือควบคุมเครื่องจักรขนาดใหญ่ เนื่องจากการขับรถในขณะที่มีระดับน้ำตาลต่ำกว่า 90 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (มก./ดล.) อาจทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลงและตัดสินใจผิดพลาดจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- เมื่อไม่ได้ใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบ CGM: เช่น เมื่อเซนเซอร์วัดค่าน้ำตาลเกิดหลุดหายไป ไม่ได้ซื้อเครื่องตรวจเบาหวานไม่ต้องเจาะเลือดสำรองไว้ หรือเกิดปัญหาอื่นๆ กับที่ตรวจเบาหวาน การพกที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือดจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตรวจวัดค่าระดับน้ำตาลที่ต้องการได้
- เมื่อสงสัยว่ามีภาวะน้ำตาลสูงหรือต่ำ: หรือกำลังฟื้นตัวจากภาวะดังกล่าว การใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือดจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ช่วยยืนยันข้อสงสัยและรับมือได้อย่างทันท่วงที
การใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือดสำหรับผู้ตั้งครรภ์
สำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ การใช้ที่ตรวจเบาหวานแบบเจาะเลือดถือเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าคุณจะเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว หรือเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus) เพื่อให้ระดับน้ำตาลอยู่ในช่วงที่เหมาะสมและควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเหมาะสมในการใช้งาน
การติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและเครื่องมือที่เหมาะสม การใช้เครื่องตรวจเบาหวานแบบไม่เจาะเลือดควบคู่กับเครื่องวัดน้ำตาลในเลือดราคาต่างๆ จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับข้อมูลระดับน้ำตาลที่ครบถ้วนและแม่นยำในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามต่อเนื่องตลอดวันหรือการตรวจสอบในช่วงเวลาสำคัญ เพื่อให้การจัดการโรคเบาหวานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

Biogenetech พันธมิตรด้านการดูแลสุขภาพของคุณ
Biogenetech เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนวัตกรรมทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกไม่ว่าจะเป็น วัคซีน ผลิตภัณฑ์ชีวบำบัด และเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการดำเนินงานมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรกับสภากาชาดไทย และสถาบันพัฒนาด้าน Biotechnology ชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ CNBC, CDIBP, Guerbet, GC Pharma และอีกมากมาย ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา Biogenetech มุ่งมั่นที่จะช่วยในการยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขในประเทศไทย ปกป้องประชาชนชาวไทยให้ปลอดภัยจากโรคนานาชนิดอย่างยั่งยืน
ติดต่อ Biogenetech ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
ฝ่ายบริการลูกค้า
โทร: (66) 0-2748-9333 ต่อ 8401, 8402
ฝ่ายเครื่องตรวจน้ำตาล Contour: 065-503-2555
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์: 1800-291-245
อีเมล: emarketplace@biogenetech.co.th
เว็บไซต์: www.biogenetech.co.th